Its Time to Reform the Thai Packaging Association!

29 มิถุนายน 2561 | 11:43 น.

      ก่อนอื่น “ในวงการพิมพ์” ต้องขอแสดงความยินดีกับสมาคม การบรรจุภัณฑ์ไทย ที่ได้ท่านอาจารย์มานิตย์ กมลสุวรรณ อาจารย์ใหญ่ด้านการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ มารับตำแหน่งนายกสมาคมคนใหม่วาระ 2561-2563 เพราะถึงแม้ว่าท่านจะคร่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรมการพิมพ์/บรรจุภัณฑ์มานานกว่า 4 ทศวรรษ แต่ไฟในการทำงานของท่าน ยังโชติช่วงชัชวาลมิรู้ดับ เห็นได้จากการที่ท่านได้รับเลือกตั้งตอนค่ำวันพุธที่ 21 มีนาคม 2561 ตกเย็นวันพฤหัสบดีที่ 22 เวลา 6.12 p.m. ท่านก็ได้ส่งไลน์ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เทให้ท่านได้เป็นนายกสมาคมฯ ในครั้งนี้ พร้อมกับแสดงความคิดเห็น ความห่วงใยเกี่ยวกับสถานะภาพการบรรจุภัณฑ์ไทยในปัจจุบัน และภาระหน้าที่ตลอดจนนโยบาย/แนวทางที่ท่านในฐานะ “นายกสมาคม” จะนำพา/พัฒนาการบรรจุภัณฑ์ไทยให้ทันยุคทันสมัยไทยแลนด์ 4.0 (กันซะที) โดยได้แสดงความคิดเห็นเหล่านี้ผ่านไลน์ของท่านที่ไลน์ต่อเนื่องกันมาทุกวัน “ในวงการพิมพ์” ก็ขออนุญาตคัดลอกมาให้อ่านกันตั้งแต่ไลน์แรกเลยละกันนะคะ เริ่มต้นดังนี้ค่ะ

...ขอขอบคุณทุกท่านที่ไลน์มาแสดงความยินดี ที่ผมเข้ามาทำหน้าที่นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย ในช่วงเวลาจากนี้ไปผมเห็นว่า หน้าที่ของสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย คงต้องพยายามเน้นหนักในเรื่องพัฒนาการงานบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้น ให้ความรู้รูปแบบการห่อบรรจุสินค้าด้วยเครื่องจักร ความรู้ทางเทคโนโลยีการบรรจุแบบต่างๆ เพราะวันนี้ทั่วทั้งประเทศได้ก้าวข้ามผ่านการเรียนและรู้จักบรรจุภัณฑ์มามากพอแล้ว คงจะต้องปรับเปลี่ยนการทำงานของสมาคมฯ ให้ก้าวเดินหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ...

วันนี้คงไม่มีใครปฎิเสธว่า งานบรรจุภัณฑ์มีขอบเขตที่กว้างมาก มีความหลากหลายสูงประกอบเข้าด้วยกัน ยิ่งมีการเรียนรู้และรู้จักบรรจุภัณฑ์มากเท่าไร ยิ่งเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมทั้งเทคโนโลยีทางการบรรจุ การหีบห่อผลิตภัณฑ์ ที่ปรับเปลี่ยนใหม่อยู่ตลอด ผู้ประกอบการและผู้ที่อยู่ในธุรกิจจึงต้องคอยติดตามปรับการทำงานให้ทัน เช่นเดียวกับในส่วนของผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ก็ต้องมีการพัฒนา รูปแบบให้โดนใจผู้บริโภคแล้ว นอกจากจะต้องมีการผลิตที่เมื่อนำไปใช้งานจะต้องไม่เกิดปัญหาทั้งในการผลิต การขนส่ง และในการจำหน่าย งานของสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย จากนี้ไปคงต้องเข้าไปมีส่วนร่วมที่จะประสานขั้นตอนวงจรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุภัณฑ์เข้าด้วยกัน จัดเป็นองค์ความรู้เผยแพร่ให้กับคนทั่วไป...

หนึ่งในกิจกรรมของสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย ที่จะต้องเริ่มทำ คือการเรียนเชิญผู้ประกอบการที่มีความรู้ความสามารถจากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ มาช่วยชี้แนะให้กับ ผู้ที่สนใจ ให้เข้าถึงสภาพที่แท้จริง real time เพราะวันนี้ ทุกอย่างรอบตัวเรามีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผู้ที่สนใจในเรื่องการบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ทุกระดับชั้นจะสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ผ่านทางสมาคมฯ ได้อย่างเท่าเทียมกัน... ระหว่างนี้ผมกำลังเตรียมร่างเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทางสมาคมฯ ต้องขอความร่วมมือให้เข้ามาช่วย เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกคน...

ผมได้ไลน์ให้ทราบกันแล้วว่า ในช่วงแรก สมาคมฯ จะเพิ่มกลุ่มสมาชิกเป็นผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุภัณฑ์ให้มากขึ้นในทุกสาขา โดยส่วนใหญ่ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ก็ทำเกี่ยวกับเรื่องพิมพ์ด้วย เลยต้องไปด้วยกัน แต่จะเน้นเรื่องงานบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก และจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้รับรู้ในเรื่องพัฒนาการบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวด และเป็นเรื่องที่ผมนี้ได้ชี้บอกมาตลอดหลายสิบปี...

ตลอดเวลา 30-40 ปีมานี้ เราได้แต่พูดอธิบายแต่เรื่องบรรจุภัณฑ์คืออะไร กับเอาภาพถ่ายและ บรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ สวยๆ งามๆ ของต่างประเทศมาแสดงให้ได้ดูกัน ชี้ให้เห็นความก้าวหน้าของงาน บรรจุภัณฑ์ ถ้าจะพูดไปแล้วก็ทำได้แค่นั้นจริงๆ จะแนะนำอะไรต่อก็ไม่ได้ พอให้หลัง 3 วัน ทุกคนก็ลืมหมด มาวันนี้กิจกรรมของสมาคมแบบเดิมๆ ต้องถือว่า พอแล้ว ทุกคนรับทราบแล้ว ใครอยากเรียนรู้บรรจุภัณฑ์ เบื้องต้นต้องไปหาเรียนเอาเอง จะเรียนจากอากู๋ ก็ได้ (google)..สมาคม..คงต้องไปทำอะไรที่สูงขึ้นไปกว่านี้

ผมได้บอกชาวบ้านมาหลายสิบหนแล้วว่า วันนี้ เรา CPT สามารถเข้าไปทำงานครอบคลุมรูปแบบและโครงสร้างของงานบรรจุภัณฑ์กระดาษได้เกือบหมดทุกรูปแบบ และได้เคยผ่านการทำมาแล้วแทบทั้งสิ้น แต่วันนี้เราเลือกที่จะทำแต่งานเฉพาะทางที่เราถนัด เพราะฉะนั้นเรามีนโยบายชัดเจนที่จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปทับซ้อนการทำงานของคนอื่น...

ทุกคนมีส่วนร่วมช่วยงานสมาคม..ได้ชัดเจน ที่สำคัญคือ สมาคมฯ จะไม่ไปแข่งกับสถาบันการศึกษา สอนเรื่องบรรจุภัณฑ์อีกต่อไป แต่จะช่วยเสริม ต่อยอดให้ในระดับสูงและเรื่องการใช้งานของบรรจุภัณฑ์ให้ชัดเจน ....หลังจากผ่านงานทุกอย่างด้วยตัวเอง ทำมากับมือ ตั้งแต่ก่อนมีเซเว่นและหลังมี รวมทั้งโมเดิร์นเทรด ที่เป็นตัวแปรสำคัญทำให้วงจรของบรรจุภัณฑ์เปลี่ยนไปหมด และสร้างเป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องปฎิบัติตาม แต่เพราะการบรรจุภัณฑ์ไทยโดยภาพรวม ทั้งอืดอาดและล้าหลังมากจริงๆ จนไปด้วยตัวเองแทบ ไม่เป็น แทบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องต้องซื้อ นำเข้ามาแทบทุกอย่าง แม้แต่เครื่องทำถุงใส่ขนมปังง่ายๆ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยเป็นผู้ใช้และเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ในภูมิภาคนี้ ...น่าจะมีการเริ่มต้น คิดใหม่ ทำใหม่ ได้บ้าง...

back