To Sir...with Love
ในช่วงปีใหม่ใครต่อใครต่างส่งความสุขให้กันและกัน ผ่านช่องทางการสื่อสาร ทั้งรูปแบบเดิมๆ เช่น ส ค ส หรือไม่ก้อหิ้วกระเช้าไปอวยพรผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยตนเอง หรือ การส่งความสุขรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางโซเชี่ยล
มิเดีย เช่น ไลน์ หรือ เฟสบุ๊ค เป็นต้น ทีมงาน ในวงการพิมพ์ ได้อ่านพบข้อความและภาพการไปกราบเท้าพ่อแม่ของคุณบุญธรรม ศิริโส ที่ต่างจังหวัด บนเฟสบุ๊ค และต่อมาคุณบุญธรรมยังได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมไว้อีกว่า ขออนุญาตท่านถ้าไม่เหมาะสม เพราะผมต้องการแสดงออกสื่อเพื่อให้เพื่อนๆ ทราบ ขอเชิดชูผู้มีพระคุณต่อตัวผม นอกจากพ่อ แม่ ผู้ให้กำเนิดแล้ว ยังมีท่านผู้นี้ที่มีพระคุณสำหรับผม ท่านมีพระคุณกับผมมากมาย ท่านเป็นมากกว่าเจ้านายผม ท่านเป็นอาจารย์ผม ท่านสั่งสอนผมทั้งด้านอาชีพการทำงาน ท่านสั่งสอนผมทั้งปรัชญาทางความคิด และท่านสั่งสอนผมมากมายมาโดยตลอด ผมไม่สามารถบรรยายลงในที่นี้ได้หมด ผมรักเคารพท่านมาก ขอบูชาท่านครับ
พอได้อ่านข้อความข้างต้นนี้แล้ว ก็เกิดความประทับใจที่ คุณบุญธรรม กล้าที่จะประกาศความในใจที่มีต่อเจ้านายของตนให้คนในสังคมออนไลน์ได้รับรู้รับทราบกันทั่ว ข่าวสารในวงการพิมพ์ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีงาม เป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะส่วนใหญ่ที่ได้รับฟังมา มักจะเป็นเรื่องตรงกันข้ามทั้งนั้น เลยต้องขอนัดหมายไป find out about this fact กับคุณบุญธรรม ให้รู้ดำรู้ดีกันไปเลยว่า เจ้านาย (คุณพรเทพ สามัตถิยดีกุล ประธานบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์ พริ้นท์ จำกัด มหาชน) ที่คุณบุญธรรม สุดปลื้ม นี้ ท่าน ดี อย่างไร
ศิริวัฒนา อินเตอร์ พริ้นท์ ที่ทีมงานได้ไปสัมผัสเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 ยังคงความใหญ่โตโอฬาร ดูสะอาดสวยงาม มีระบบ ระเบียบ สมเป็นโรงพิมพ์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก คุณบุญธรรม ซึ่งปัจจุบันเป็น Press Manager Web & Sheet ได้ต้อนรับทีมงานในห้องประชุมใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยผลงานที่ได้รับรางวัลประเภทต่างๆ มากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะรางวัลในประเทศ Thai Print Awards ที่ (ขอให้) ศิริวัฒนาฯ ครองแชมป์เหรียญทองตลอดกาล หลังจากที่ได้โอภาปราศรัยและชื่นชมผลงาน ป๊อป อัพ ระดับโลกกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว คุณบุญธรรมจึงได้เล่าประวัติความเป็นมาเป็นไปของตนผ่านการตอบคำถามที่ทีมงานถามนำ ดังต่อไปนี้
ช่วยเล่าประวัติการเข้ามาทำงานท่ีศิริวัฒนา
ตั้งแต่แรกเลยนะคะ
-ท่ีผมได้เข้ามาทำงานท่ีนี่ เพราะพี่สาวผมเคยทำงานกับน้องสาวเฮียพรเทพ ได้นำผมมาฝากเข้าทำงานกับเฮียพรเทพ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 ตอนนั้นผมอายุ 19 ปี เริ่มเข้ามาก็เป็นเด็กส่งของก่อนเลย หรือทำทุกอย่างที่เป็นงานในบริษัท เช่น ถูพื้น ทำความสะอาดออฟฟิศ ล้างส้วม ต้มน้ำร้อน ชงกาแฟ อื่นๆ อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน ก็ขอเจ้านายว่า อยากทำเครื่อง เจ้านายก็ใจดีให้เข้ามาฝึกทำเครื่อง ซึ่งตอนนั้นมีเครื่องอยู่ไม่กี่เครื่อง เช่น มีเครื่องลูกผสม Heidelberg อยู่ 2 เครื่อง เครื่องตัด 2 สี เดียว Heidelberg 1 เครื่อง เครื่องตัด 11 อีก 2 เครื่อง ตัด 5 อีก 1 เครื่อง เครื่องปั้ม 2 เครื่อง เครื่องตัด 1-2 เครื่อง สมัยนั้นบริษัทตั้งอยู่ใกล้สะพานสาทร ช่วงแรกๆได้ฝึกเครื่องลูกผสม อาจารย์คนแรกที่สอนผม คือ พี่บรรจง ดีพันธิ์ และช่วงที่ผมเริ่มฝึกงาน เจ้านายได้สอนผมว่า ไอ้ทำ เองเรียนมาน้อย เองต้องมีความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ อีกหลายเท่า ต้องอ่านหนังสือเยอะๆ ห้ามเล่นการพนัน ห้ามกินเหล้า ห้ามสูบบุรี่ แล้วท่านก็เอาหนังสือเกี่ยวกับวงการพิมพ์มาให้ผมอ่าน ผมเรียนจบแค่ ป.4 (ป.4 นะ ไม่ใช่ ป.ตรี) จากการที่ท่านบอกว่า เองเรียนน้อย เองต้องพยายามมากกว่าคนอื่นๆ เลยทำให้ผมชอบอ่านหนังสือ ชอบค้นคว้าหาความรู้ ชอบศึกษาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสะสมมาตั้งแต่นั้น และผมไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน เหล้าผมก็ไม่ดื่ม เพราะเชื่อท่าน (แต่ดื่มเบียร์แทน)
ต่อมา ศิริวัฒนาฯ ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดปรกตรอกจันทร์ เมื่อโรงพิมพ์โตขึ้น เจ้านายก็ซื้อเครื่องพิมพ์เพิ่มขึ้น โดยซื้อเครื่องพิมพ์โคโมริ รุ่น 426 เป็นเครื่องแรกของเมืองไทย เจ้านายได้ส่งผมไปเรียนงานกับเจ้าของเครื่องที่ญี่ปุ่น ไปเรียนรู้และฝึกอบรมการใช้เครื่อง หลังจากนั้น ทุกครั้งที่มีการซื้อเครื่องใหม่ ผมจะได้ไปรับการฝึกอบรมใหม่ด้วยทุกครั้ง เฉพาะที่ญี่ปุ่นนี่ ผมไปมาแล้ว 6 ครั้ง นอกจากความรู้ทางการพิมพ์ ท่านยังสนับสนุนส่งเสริมให้ผมเรียนรู้ด้านอื่นๆ อีกมาก เช่น ส่งผมไปเรียนด้านการบริหารที่ ม. บูรพา ทั้งเรียน MBA เรียน CEO ระยะสั้น 6 เดือนจบ จากเด็ก ป.4 ที่ไม่รู้อะไรเลย วันนี้ ผมมีความรู้ที่สามารถถ่ายทอดให้ทีมงาน ทั้ง Web และ Sheet ให้สามารถขึ้นมาเป็นช่าง และทีมงานผมส่วนมากยังมีความสามารถบริหารงานเบื้องต้นได้ดีอีกด้วย (เฉพาะแผนกพิมพ์เท่านั้นนะครับ)
ที่บอกว่าคุณพรเทพ สั่งสอนคุณ
ท่านสั่งสอนอย่างไรคะ
- คือ จริงๆท่านไม่ได้สั่งสอนผมตรงๆนะ ส่วนมากท่านก็จะสั่งสอนทุกคนนั่นแหละ เวลาประชุมท่านก็จะพูด จะสอนในภาพรวม ส่วนใครจะสามารถหยิบประเด็นไหนมาคิดต่อก็แล้วแต่ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล อย่างผมนี่ ผมก็บอกแล้วว่า ผมเรียนน้อย ความจำไม่แม่น ดังนั้นทุกครั้งที่มีประชุมผมจะไม่จำนะ แต่ผมจะจดทุกอย่างที่ท่านพูด จากนั้นก็นำคำพูดท่านมาแกะประเด็น อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท ผมก็นำมาทำ นำมาปฏิบัติ และ นำมาถ่ายทอดให้ทีมงาน เพื่อให้ทุกคนรู้เท่าๆ กัน
เห็นมีเครื่องตั้งมากมาย พอจะบอกได้ไหมว่า
มีเครื่องทั้งหมดกี่เครื่อง
- เครื่องพิมพ์ ทั้งหมดเราแยกเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนที่ 1 เป็นเครื่องพิมพ์ Sheet หรือเครื่องพิมพ์ชนิดป้อนแผ่น มีทั้งหมด 16 เครื่อง มีตั้งแต่ 4-5-6-8 สี และมีเครื่อง Sheet ชนิดพิมพ์ 2 หน้าพร้อมกันอีก 4 เครื่อง
ส่วนที่ 2 เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดป้อนม้วน หรือเครื่องพิมพ์ Web อีก 10 เครื่อง ทั้ง Sheet และ Web ทำงาน 2 กะ ทุกเครื่องครับ
มีเครื่องมากมายขนาดนี้ ใช้หลักการบริหาร อย่างไร และการให้ความรู้สามารถควบคุมไม่ให้
งานมีปัญหาได้
- เจ้านายท่านให้หลักการมาว่า ทำอะไรก็แล้วแต่ จะต้องมีตาราง มีระบบ เพื่อให้คนทำงานเข้าใจตรงกัน ผมก็นำหลักการนั้นมาทำ มาคิดต่อ เช่น หลักการใช้เครื่อง ทีมงานทุกคนต้องมีความเข้าใจเครื่องก่อนว่า กลไกเครื่องแต่ละส่วนมีความสำคัญอย่างไร ทำงานแบบไหน โดยเราคำนึงถึงความปลอดภัยในการทำงานเป็นอันดับแรก สำหรับหลักในการควบคุมการทำงาน เราจะมีระบบมาตรฐาน ISO ที่ทุกคนจะต้องทำงานตามระบบ เป็นขั้น เป็นตอน
ส่วนหลักการควบคุมงานพิมพ์ เราก็มีหลักการควบคุมที่เป็นแบบเฉพาะของศิริวัฒนาฯ ดังนั้น ทุกขั้นตอนเราจะมีตาราง มีระบบการทำงาน ทุกคนต้องทำงานตามระบบ ถ้าผิดก็ให้มันผิดที่ระบบ จากนั้นเราก็มาแก้ระบบให้มันถูกซะ แต่ถ้ามีระบบแล้วไม่ทำตามระบบ ถ้าผิดมาก็ไม่รู้จะแก้จุดไหน เพราะมันไม่มีระบบ มันมั่ว มันแก้
ลำบากมากๆ
มีเครื่องมากอย่างนี้ พนักงานก็คงจะมีมากตามไปด้วย คุณใช้วิธีบริหารจัดการแบบไหน ถึงไม่มีปัญหา
- เราใช้วิธีแยกพนักงานออกเป็น 2 ส่วน ส่วน Sheet มี 60 คน Web 60 คน เราเปิด 2 กะ เราอยู่กันแบบพี่น้อง และจากแนวคิดของเจ้านายที่บอกว่า ทำทุกอย่างต้องมีระบบ มีตาราง คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ต้องทำให้เขารู้เรื่องให้ได้ แล้วจะทำอย่างไร ผมก็เอามาคิดต่อยอดว่า การที่จะทำงานให้มีปัญหาน้อยที่สุด หรือไม่มีได้เลยนั้น การสื่อสารและการให้ความรู้ (Knowledge Management) ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ทุกๆ เรื่องที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน หรือเป็นนโยบายของบริษัท พนักงานในสังกัดต้องรับรู้รับทราบเหมือนๆกัน เราจึงต้องมีการ Training ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนจำเป็นจะต้องเรียนรู้ สมมุติว่าใครคนใดคนหนึ่งทำงานผิดพลาด ทำให้เกิดความเสียหาย เราก็จะเอาประสบการณ์ตรงนั้นมาทำเป็น Program มาทำเป็นหลักสูตร นำมาใช้ในการฝึกอบรม Training หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันอาจจะเกิดเป็นปัญหาในอนาคตได้ เราก็จะนำมาสื่อสาร เพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ใช้ความระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา และก่อนทำงานทุกครั้ง เราจะมีการประชุมวางแผนว่า อะไรบ้างที่ต้องระวัง อะไรที่ต้องเน้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องรู้เท่าเทียมกัน
คุณใช้อะไรเป็นเครื่องมือหลักในการบริหารจัดการ
- งานทางการพิมพ์ เป็นงานที่พูดเตือนกันไม่มีวันจบ ต้องพูดและสื่อสารกันด้วยข้อความเดิมๆตลอด ทุกๆวัน สำหรับเครื่องมือที่เราใช้ในการบริหารจัดการก็มีหลายแบบอย่าง เช่น 5 ส อันนี้ต้องทำเลย กับอีกอย่างหนึ่ง คือ TPM หรือ Total Productive Maintenance
หรือ การบำรุงรักษาทวีผลที่ทุกคนมีส่วนร่วม เอามาปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับองค์กร โดยมีการฝึกสอนอบรมทีมงานให้เข้าใจในหลักการ TPM ในแบบเฉพาะของศิริวัฒนาฯ โดยเราจะเริ่มจากการทำ 5 ส เครื่องก่อน เพราะการทำ 5 ส เครื่อง จะทำให้เราพบจุดที่ไม่ปกติ ซึ่งเราสามารถจะแก้ไขได้เอง เป็นการซ่อมบำรุงด้วยตนเองที่เรียกว่า AM Autonomous Maintenance ซึ่งการที่ช่างประจำเครื่องได้ลงมือแก้ไขเครื่องด้วยตนเอง ช่างก็จะได้รู้จุดอ่อน จุดแข็งของเครื่องตัวเองด้วย และยังเป็นการช่วยให้ช่างมีทักษะในการแก้ไขเครื่อง แก้ปัญหาด้วยตนเอง จากการที่เรานำหลักการนี้มาใช้ พบว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เครื่องเราสามารถ Speed งานได้เร็วขึ้นมากตามใจชอบ ได้ผลผลิตมากขึ้น คุณภาพก็ดีมากขึ้น และที่สำคัญ เราไม่ต้องหยุดเครื่องเพื่อแก้ไขในขณะวิ่งงานเลย หรือแทบไม่มีเลย ทำให้ข้อผิดพลาดในการทำงานลดลงอย่างมาก เราจะหยุดเครื่องก็ต่อเมื่อถึงเวลาต้องหยุด คือ หยุดแก้ไขตามแผนงาน หรือหยุดเพราะต้องทำ PM Preventive Maintenance เท่านั้น
อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกภูมิใจเจ้านายมากเป็น
พิเศษจนไม่คิดอยากจะออกไปอยู่ที่อื่น
- ก็มีหลายอย่างนะ อย่างหนึ่งที่พูดไปแล้ว คือ ท่านเป็นคนที่ให้โอกาสคน ท่านจะสอนทุกคนให้เป็นคนดี ไม่ให้กินเหล้า ไม่ให้สูบบุหรี่ ไม่ให้เล่นการพนัน ไม่ให้เสพยา นี่คือพื้นฐานที่ท่านสอนทุกคน ส่วนเรื่องงานท่านก็จะสอนเหมือนๆกัน เพียงแต่ใครจะหยิบจะฉวยได้มากได้น้อยเท่านั้น แต่ที่ผมชื่นชมท่านมากเป็นพิเศษก็คือ ความคิดและแนวทางการทำงานของเจ้านายที่ท่านสอนให้พวกเราทำงานให้เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นวิทยาศาสตร์คืออย่างไร ก็คือการทำงานให้เป็นระเบียบแบบแผน มีที่มาที่ไป ทุกอย่างเป็นตัวเลขหมด สามารถพิสูจน์ได้ ทำให้ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มาก
ผมตั้งใจแล้วว่าชาตินี้ผมจะขออยู่เป็นลูกจ้างบริษัทนี้บริษัทเดียว เพราะที่ผ่านมาผมก็มีความสุขดี ผมมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน พอมาอยู่ได้ 3 ปี ก็ได้แต่งงาน มีลูก 3 คน 2 คนเรียนจบ ป.ตรี ได้งานทำแล้ว ส่วนอีกคนก็เรียนอยู่ ม.4 ผมมีบ้าน มีรถ ก็เพราะผมทำงานที่นี่ ผมโตมาจากที่นี่ ที่นี่เป็นบ้านของผม ผมไม่มีความคิดที่จะไปอยู่ที่บริษัทอื่น (หรือ ถ้าคิดก็คงไม่มีใครจ้าง) อีกอย่างหนึ่ง คืออยู่ที่นี่เจ้านายให้อิสระในการบริหารงานในสายงานของผมเองเต็มที่ คิดเอง รับผิดชอบเอง ทำให้ถูกต้องละกัน ท่านไม่เคยมายุ่งเลย ส่วนตัวผมก็อยู่กับทีมงานมานาน แค่มองตากันก็รู้ว่าบริษัทต้องการอะไร แล้วทุกคนก็จะร่วมมือกันทำ มันมีความสุขที่ได้เจ้านายดี ดีมากๆ และมีความสุขที่มีทีมงานดี มีความเข้าใจกัน ที่สำคัญเหนืออื่นใด คือผมมีความเคารพรักและภาคภูมิใจในตัวเจ้านาย และในบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ผมได้มีส่วนเป็นฟันเฟืองตัวน้อยๆ ตั้งแต่ยุคแรกๆ ได้เห็นความเจริญเติบโตของบริษัทเรื่อยมา จนเป็นบริษัทใหญ่อันดับต้นๆของประเทศและของอาเซียน ผมภูมิใจจริงๆ ที่ได้เป็นหนึ่งใน SIRIVATANA FAMILY ครับผม คุณบุญธรรมกล่าวย้ำอย่างสัมผัสได้ถึงความหนักแน่นและจริงใจ
