คุณเสริมศักดิ์ ตุ้มท่าไม้

ตำแหน่ง:ผู้บริหาร
บริษัท: บริษัท TMAX DESIGN

TMAX องค์กรของคนรุ่นใหม่ ยุค เมืองไทย 4.0

 

ไม่น่าเชื่อที่ความกดดันจากปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาสาหัส จะทำให้หนุ่มชาวสวนฝรั่ง ย่านนครปฐม ต้องหันมาแสวงหาอาชีพใหม่ที่ “เขา” ตั้งเป้าไว้เลยว่า ผลผลิตจากอาชีพใหม่ของเขาจะต้องเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ ซึ่ง “เขา” ก็ทำได้จริง แถมยังเจริญก้าวหน้า สามารถเปิดสาขาได้ทุกภาคทั่วไทยถึง 30 สาขา และกำลังก้าวสู่การเป็น “ศูนย์พิมพ์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยภายในปี 2560” ตามวิสัยทัศน์ ที่ “เขา” กำหนดไว้เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว โดยเมื่อปลายปี 2559 “เขา” ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดตั้งเครื่องพิมพ์ดิจิตอลรุ่น Color 1000i Press และรุ่น Versant 80 พร้อมเครื่องหลังพิมพ์ยี่ห้อ Uchida และ Horizon ครบชุด โดยได้ทำการติดตั้งทั้งที่สำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา รวมทั้งหมด 11 สาขา พร้อมที่จะรับงาน รับเงิน รับปีระกา ปีไก่ทอง 2560

คุณผู้อ่านคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมว่า “เขา” คนนี้ คือใคร ข่าวสาร “ในวงการพิมพ์” ฉบับที่ 4 ปีที่ 40 ขออาสาพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ คุณเสริมศักดิ์ ตุ้มท่าไม้ หนุ่มใหญ่ที่เรากล่าวเกริ่นไว้ข้างต้น ณ สำนักงานใหญ่บริษัท TMAX DESIGN ตำบลท่าข้าม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

เราไปรับฟังประวัติความเป็นมาและแนวคิดในการบริหารงานและบริหารคน เพื่อให้ทุกคนมีความสุขทั้งในการทำงานที่มีอนาคตและการดำรงชีวิตที่มีคุณค่า ของคุณเสริมศักดิ์ ตุ้มท่าไม้ คนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ “อดทนเหมือนทหาร เก่งงานเหมือนวิศวกร” (คุณสมบัติเฉพาะตัวของคุณเสริมศักดิ์) กันเลยค่ะ คุณเสริมศักดิ์ได้รำลึกความหลังให้ทีมงานได้รับฟังว่า “ครอบครัวผมทำสวนฝรั่งอยู่ที่สามพราน ผมเป็นลูกคนเล็ก ตอนเด็กๆ ก็ลำบากมาก แม่ฝึกให้ผมอดทน ให้รู้จักจับปลาหากินเองได้ตั้งแต่เล็ก เรียนก็น้อย พอโตขึ้นหน่อยก็รู้สึกว่า อาชีพการทำเกษตรนี่ นอกจากจะเหนื่อยมากแล้ว ยังต่อรองราคาอะไรไม่ได้เลย ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาตลอด คิดดูซิ ปลูกฝรั่งกว่าจะโตให้ผลผลิตได้ ต้องใช้เวลา ใช้แรงแค่ไหน แต่ขายได้กิโลละบาทเดียว เลยทำให้ผมอยากหาอาชีพใหม่ที่ทำแล้วมีกำไรมาก พอผมเรียนจบด้านอิเล็กทรอนิกส์ระดับปวช. ซึ่งทำให้พอมีฝีมือด้านเขียนแบบกับเขาบ้าง เลยสนใจธุรกิจทำป้าย ตัดสติ๊กเกอร์ สมัยนั้นยังใช้การเขียนป้าย ยังไม่มีเครื่องพิมพ์ ผมคำนวณดูแล้วต้นทุน 100 บาท ขาย 1,000 บาท รู้สึกว่า ได้กำไรดีเหมือนที่หวัง ความเสี่ยงก็ต่ำ ต้นทุนก็ต่ำ เพราะผมทำคนเดียวหมด

อีกอย่างหนึ่งคือ ผมมองว่าเป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่ง สมัยนั้นนะครับ เพราะธุรกิจนี้เรื่องการทำอาร์ต การออกแบบ เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่รู้เรื่องนี้ ก็คงจะทำธุรกิจยาก ทีแรกก็คิดว่าจะไปเรียนตามสถาบันเหมือนกัน แต่มันจะช้า สู้เปิดธุรกิจและเรียนรู้ไปกับงาน เรียนรู้กับลูกค้าไปเลย อะไรที่ไม่รู้ก็ไปอ่านเอาจากตำรา หรือไปลองทำเองเลย ซึ่งก็จะทำให้เรารู้เรื่องดีขึ้น รู้เรื่องมากกว่าใคร ก็เลยเริ่มที่รับพิมพ์ป้าย กับตัดสติ๊กเกอร์ นี่ละครับ” แนวคิดในการสร้างเครดิต สร้างความเชื่อถือทั้งกับเจ้าหนี้และลูกค้า “ผมเป็นคนที่ชอบคิด ชอบวางแผน แต่เราไม่มีเงิน ไม่มีเครดิต กู้แบ้งค์ก็ไม่ได้ การวางแผนด้านการเงินของผมแรกๆ จึงใช้วิธีการตกปลาที่ต้องใช้เหยื่อ คือทำให้คนขายวัสดุอุปกรณ์เชื่อใจก่อนว่าเราจะจ่ายเขาได้จริง ซึ่งเมื่อถึงเวลาจ่าย เราก็ต้องจ่ายเขาได้จริงๆ ก็เริ่มด้วยวิธีการนี้ คือเอาวัสดุมาพิมพ์ก่อน พอขายได้เงินสดก็รีบไปคืนเขา ผมขายถูกกว่าใครเพราะต้นทุนผมต่ำ และผมยึดหลักความซื่อสัตย์และตรงต่อเวลา รักษาคำพูด คำว่าไม่มี ไม่ได้ ผมจะไม่พูดนะ ผมได้ใช้วิธีนี้ทำกิจการเรื่อยมา จนได้รับความเชื่อถือจากแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้การสนับสนุนกิจการของผมให้เจริญเติบโต เป็นรูปเป็นร่างสร้างตัวได้ที่สามพรานเป็นแห่งแรก ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทชื่อ TMAX DESIGN เมื่อปี พ.ศ.2551 รับงานพิมพ์อิงค์เจ็ทไวนิล สติ๊กเกอร์ รับพิมพ์อย่างเดียว ไม่รับติดตั้ง พิมพ์เสร็จก็ส่งลูกค้า รับเงินสดเลย ซึ่งการที่เราขายสินค้าตัวเดียวเนี่ยะ มันก็ทำให้เราคล่องตัว จัดการง่าย มีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันการณ์ ทำให้สามารถขยายสาขาเติบโตมาเรื่อยๆ ปัจจุบันมี 30 สาขาแล้วครับ แต่ละสาขาก็จะมีเครื่องมือ มีอุปกรณ์การทำงาน มีเครื่องพิมพ์ไวนิล เครื่องตัดสติ๊กเกอร์ เครื่องพิมพ์ดิจิตอล มีผู้จัดการประจำสาขา พร้อมลูกน้องอีกไม่เกิน 10 คน ช่วยกันทำงาน ช่วยกันหาเงิน ทำงานมากก็ได้ส่วนแบ่งมาก ทำงานน้อยก็ได้แค่เงินเดือนไป

จุดเด่นของ TMAX DESIGN ในทุกสาขา คือ คุณภาพงานและความรวดเร็ว อย่างงานพิมพ์ฉลาก ถ้าลูกค้ามีไฟล์งานมา ก็สามารถรอรับงานได้เลย เพราะเรามีรูปแบบฉลากสำเร็จเตรียมไว้ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ พิมพ์เสร็จก็นำไปใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาส่งไปไดคัตอีก” เปิดสาขามากๆ อย่างนี้ มีปัญหาเรื่องลูกน้องบ้างไหม มีแนวคิดในการดูแลลูกน้องอย่างไร “ปัญหาเรื่องลูกน้อง ก็มีบ้างเล็กน้อยเหมือนกันกับธุรกิจอื่นครับ” คุณเสริมศักดิ์ตอบเต็มปากเต็มคำ “แต่เรื่องคน ผมคิดว่าผมเอาอยู่ครับ เพราะองค์กรผมเป็นองค์กรที่เน้นเรื่องการพัฒนาคน พัฒนาสมอง สอนให้เขาเป็นคนเก่ง มีเหตุมีผล ผมจะให้ความสำคัญกับ “คน” มาก จะฝึก “คน” ก่อน เพราะการทำธุรกิจ เราไม่ได้แข่งกันที่เงินอย่างเดียว เราแข่งกันที่ “คน” ถ้าคนดี มีความรู้ มีความอดทน เดี๋ยวเงินก็มาเอง ผมเอาตัวเองเป็นแบบอย่างให้ลูกน้องมาเรียนรู้กับผมทุกคน ก่อนรับเข้าทำงาน ผมจะถามก่อนเลยว่า เขาจะมาเข้าเรียนได้ไหม คือเรามีศูนย์ฝึกอบรมด้วย ผมจะสอนให้เขารู้จักคิดใหม่ ตามสูตรที่ผมคิดขึ้นเอง ตามประสบการณ์ของผม เพราะผมไม่เคยรู้เรื่องการทำธุรกิจมาก่อน ทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกมาแล้ว มีปัญหาก็ต้องแก้ไข ผมซื้อหนังสือมาอ่านมาศึกษาเยอะมาก เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมคัดคนมาทำงาน ผมจะไม่ดูที่วุฒิการศึกษาของเขา ผมจะดูที่คุณสมบัติอื่นๆ ของเขาก่อน อย่างเช่น พวกลูกอิสานที่ผ่านงานหนักๆ มาแล้ว อย่างงานก่อสร้าง พวกนี้จะมีความอดทนมาก ถ้าเราเติมหัวสมองให้เขา เขาก็จะทั้งเก่งและแข็งแรง สู้งาน แม้ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่ย่อท้อ ผมจะฝึกให้เขารู้จักคิด ไม่ให้ท่องจำ ถ้าเขาคิดเป็น เขาก็จะแก้ไขปัญหาได้เอง เราสอนให้เขาเก่ง พอเขาเก่งเขาก็ช่วยเราทำงานได้ เราก็จะเหนื่อยน้อยลง แต่ผลผลิตมากขึ้น มีเงินมากขึ้น มีเวลาไปทำอย่างอื่น เช่น ออกกำลังกาย ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ มากขึ้น ซึ่งผมจะให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เป็นอันดับหนึ่งเลยนะครับ ร่างกายแข็งแรง จิตใจก็เข้มแข็ง มีความสุข ก็ให้เขาเรียนรู้อยู่ประมาณ 3-6 เดือนก็ส่งไปเป็นผู้จัดการตามสาขา เป็นเถ้าแก่ของสาขานั้นๆ และที่สำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมจะสอนให้เขาเป็นคนดี คนดีมีศีล 5 ครบ ถ้ามีศีลเขาก็จะมีความซื่อสัตย์ จะไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งต่อสุขภาพของเขาเอง และต่อการงานของเราด้วย

มีคนถามผมบ่อยๆ ว่า ผมปล่อยไปเยอะๆ อย่างนี้ ไม่กลัวรั่วหรือ ผมไม่กลัวนะ เพราะผมเชื่อว่า มนุษย์เราจะทำอะไรต้องมีเหตุผล ถ้าเขามีเหตุผลที่จะต้องไป ก็ต้องไป ผมชอบทำงานแบบตรงไปตรงมา ไม่เอาเปรียบกันทั้งตัวผมและลูกน้อง ผมเปิดเผยข้อมูลให้ลูกน้องดูทุกอย่าง ผมโชว์ให้เห็นเลยว่า ผลการประกอบการเป็นอย่างไร ขาดทุนเท่าไร กำไรเท่าไร เราทำให้เขาเห็นหมด ให้เขารู้จักคิด รู้จักรับผิดชอบได้เอง”

คุณเสริมศักดิ์อธิบาย พร้อมชี้ให้ดูตารางรายงานการทำงานของทุกสาขาที่ติดอยู่เต็มฝาผนังห้องทำงาน “รายงานเหล่านี้ ทำให้เรามองเห็นภาพรวมขององค์กร เห็นภาพรวมของธุรกิจในอนาคต เดือนต่อเดือน เพื่อเก็บบันทึกเป็นข้อมูลเพื่อพัฒนาปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น โดยเราจะมีการประชุมร่วมกับผู้จัดการสาขาต่างๆตลอด” มาเข้าคำถามสำคัญกันซะที

“ทำไมต้องเลือกเครื่องพิมพ์ “ฟูจิ ซีร็อกซ์” ทุกสาขา” “ที่เลือก “ฟูจิ ซีร็อกซ์” เพราะที่เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีทีมงานมือ อาชีพ ทั้งเรื่องของบริการหลังการขาย และการวางขายทางการตลาด ตอบโจทย์การทำธุรกิจอย่างชัดเจน อีกทั้งประทับใจเซลล์ชื่อ คุณเอิน คุณเอินมี น้ำอดน้ำทนมาก เป็นคนสู้งาน สามารถรับข้อเสนอ เงื่อนไขต่างๆ ของผมได้ดี จนในที่สุด ผมก็สามารถ “ขายฝัน” ให้ “ฟูจิ ซีร็อกซ์” ได้สำเร็จ (ส่วนรายละเอียด “ฝันนี้” จะเป็นอย่างไร กรุณาไปสอบถามกันเองนะคะ) ที่จริง ผมก็เสนอบริษัทอื่นเหมือนกัน แต่ติดปัญหาที่เซลล์เขาไม่ติดตามนี่ละครับ ที่ต้องลงเครื่องยี่ห้อเดียวกันหมดนี่ เพราะถ้าซื้อจำนวนมาก ราคาเครื่องก็จะถูกลง ทำธุรกิจต้องทำด้วยสมอง ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะ เราเอาเครื่องมาทำเงิน การดูแลเครื่องต้องง่าย ซ่อมง่าย เวลาฝึกคนก็ง่าย เพราะใช้เครื่องเหมือนๆ กัน อีกอย่างหนึ่งคือ คอนเซปต์ของผม จะไม่มีโกดังเก็บของ เก็บอะไหล่เสริม เป็นหน้าที่ของซัพพลายเออร์ดูแลให้ ลูกน้องมีหน้าที่ทำงานก็ทำไป ไม่ต้องกังวล ส่วนผู้บริหารก็ทำหน้าที่บริหารไป เช่น ทำอย่างไรจะลดต้นทุน เพิ่มกำไร เป็นต้น ครับผม”

ที่มาของชื่อบริษัท TMAX DESIGN “อย่างที่บอกไปแล้วว่า ผมเป็นคนชอบวางแผน การตั้งชื่อบริษัทของผมก็มีแผนเหมือนกัน คือต้องเป็นชื่อภาษาอังกฤษ แค่ 2 พยางค์ เพื่อให้จำได้ง่าย ให้ติดปากผู้ใช้บริการ เหมือน 7/11 เลย และในอนาคต ผมก็วางแผนไว้แล้วว่า ใครที่ต้องการอะไรๆ ที่เกี่ยวกับงานพิมพ์ จะต้องคิดถึง TMAX DESIGN ซึ่งต่อไปจะมีสาขาประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดเลยครับ ชื่อ TMAX นี่ ตัว T ก็มาจากนามสกุล ตุ้มท่าไม้ ส่วน MAX เป็นชื่อลูกชายผมครับ รวมกันเป็น TMAX จำง่าย เป็นอินเตอร์ดีด้วยครับผม”

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณผู้อ่านจะเห็นด้วยกับข่าวสาร “ในวงการพิมพ์” ไหมว่า คุณเสริมศักดิ์ นี้ละ คือหนึ่งในตัวอย่างของ Smart People ที่ทั้ง Smart thinking, Smart planning, Smart working etc. ในบริบทของ เมืองไทย 4.0 ตัวจริง เสียงจริง เลยละค่ะ ที่จริงข้อมูลรายละเอียดการบริหารจัดการฉบับคุณเสริมศักดิ์ยังมีอีกมาก น่าสนใจทั้งนั้นเลย เช่น การวางแผนให้ลูกน้องมีเงินเก็บเป็นล้านเพื่อความสุขในบั้นปลายชีวิต! ถามลูกน้องแล้ว ได้รับคำตอบยืนยันว่า จริงค่ะ!!

back