เรื่องนี้มาแรง

เมื่อวานอ่านข่าวจากเยอรมันเขียนเกี่ยวกับการจัดงาน Drupa ที่ผ่านมา ได้รับความสำเร็จมาก หลายๆบริษัทใหญ่จะพูดถึงการเข้าไปสู่ Industry 4.0 ทางการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ แต่ไม่มีคนไหนบอกว่ามันเป็นยังไง
เลยไม่รู้จริงๆว่า อุตสาหกรรม 4.0 ทางการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ มันคืออะไรกันแน่ แต่ที่รู้แน่ๆ เวลานี้แทบทุกอุตสาหกรรมในบ้านเราต้องปรับตัวและลดการผลิตลงอุตลุต ความร้อนแรงทางธุรกิจเหมือนที่แล้วมาคงจะไม่กลับมาอีก

สิ่งที่การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กำลังเจอก็คือ จะเดินหน้าหรือทำอะไรใหม่ก็ไปไม่เป็น เพราะไม่รู้ว่ามีอะไรใหม่กว่าที่ทำอยู่ ไม่รู้จักคำว่า innovation รู้จักทางเดียวสุดท้ายก็คือแข่งกันตัดราคาสู้กันเลือดสาด แม้แต่ธุรกิจของผมก็ยังโดนกระทบ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอ แต่ดีว่าได้ค่อยๆ ปรับทำตัวให้เล็กลงมาร่วม 3 ปีก่อนหน้า ได้ทยอยปรับเปลี่ยนเครื่องพิมพ์และเครื่องทำงานหลังพิมพ์ใหม่หมด ลดการใช้แรงงานลง 30% ปรับการทำงานเข้าสู่การใช้ Automation เกือบหมด และเพิ่มการใช้ Package engineering มากขึ้น ทำให้ลดของเสีย เพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งหมดได้ใช้เงินไปเยอะมาก และสิ่งที่ได้ทำไปนั้นก็เพื่อต้องการเข้าสู่ระบบ GMP

ในขณะเดียวกันได้กลับกลายเป็นแนวทางเข้าสู่การทำงานของอุตสาหกรรม 4.0 (จากความเห็นของหลากหลายบุคคลที่ได้มาดู) เพราะฉนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการที่หลายๆ ฝ่ายกำลังลุ้นกันเรื่อง ธุรกิจ Start-up และ SME ให้เกิดให้ได้ในขณะนี้ จึงเป็นเรื่องยากลำบากน่าดู (พูดความจริงแบบไม่เกรงใจ) ส่วนพวกกูรู้และท่านเกจิอาจารย์อีกหลายท่านที่กำลังคิดและศึกษาเรื่อง อุตสาหกรรม 4.0 ของการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อที่จะได้ให้เป็นความรู้และชี้แนะเป็นประโยชน์ให้คนในวงการ ซึ่งก็คงต้องเกี่ยวกับการผลิตงานบรรจุภัณฑ์ทุกขั้นตอน แต่ถ้าพูดไปแล้วกว่า 90% ของผู้ที่อยู่ในธุรกิจนี้ จะทำได้แต่งานบรรจุภัณฑ์ธรรมดาๆ ทั่วไป ไม่มีความรู้พื้นฐานทางบรรจุภัณฑ์หรือเรียนรู้วัสดุใหม่ๆ และจะไม่รู้จักวิธีคิดหรือพัฒนางานแปลกๆ ใหม่ๆ เชื่อว่าส่วนใหญ่คงจะไม่ได้มีความพร้อม จึงเหมือนเป็นการก้าวกระโดดข้ามขั้นตอน หวังว่า
นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทยคนใหม่ท่านนภดล และท่านไพโรจน์ คงจะได้ช่วยกันคิดหาทางที่เหมาะสม ที่จะให้ได้องค์ความรู้
อุตสาหกรรม 4.0 ทางการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ มาให้กับวงการของเรา..

ด้วยความห่วงใยจากใจอาจารย์มานิตย์

ด้วยความห่วงใยจากใจอาจารย์มานิตย์
back