Mr.Arnon Goldman

ตำแหน่ง:ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป
บริษัท: HP Industrial Business, Asia Pacific & Japan, HP Inc.

การรับมือกับการเพิ่มจำนวนของสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในเอเชีย 

-  ทางออกใหม่ที่ทำให้โรงพิมพ์ประสบความสำเร็จ

 

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เป็นตัวแปรหลักที่ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่าอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียจะมีมูลค่าเติบโตเป็น 1.92 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 57 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2567 หรือคิดเป็น 61.4% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกในขณะนั้น เมื่อผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ร้านค้าและช่องทางการขายออนไลน์มีการเติบโตและขยายตัวแบบทวีคูณ แต่ในขณะเดียวกัน ได้กลายเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการปลอมแปลงสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น โดยพบว่า ปัจจุบันสถิติการปลอมแปลงมีมูลค่าสูงราว 509 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  (ประมาณ 15,270 พันล้านบาท) และมีแนวโน้มเติบโตในอัตราเร่ง ดังนั้น เจ้าของแบรนด์สินค้าจำเป็น ต้องหามาตรการรับมือเพื่อปกป้องผลประโยชน์และส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจที่อาจจะได้รับผลกระทบ

 

บริษัทหลายแห่งได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างเปิดเผย โดยทำงานกับผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (PSP- Print Service Provider) และผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปการเติบโตของโลกดิจิทัล อุตสาหกรรมการพิมพ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะมีการเติบโตในอัตราสูงสุดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 โดยมีประเทศจีน อินเดีย และญี่ปุ่น เป็นผู้นำอุตสาหกรรมการพิมพ์กราฟิกเชิงพาณิชย์และดิจิทัลในการรองรับการเติบโตที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรม

 

ในขณะนี้ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการพิมพ์ได้มีทำงานร่วมกันในการต่อต้านขบวนการปลอมแปลงสินค้า    เพื่อทำให้การพิมพ์ดิจิทัลที่ป้องกันการปลอมแปลงได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อต้านสินค้าปลอม ซึ่งแม้ แต่นักลอกเลียนแบบที่มีความเชี่ยวชาญสูงยังยากที่จะทำการปลอมแปลงสินค้าหรือลอกเลียนแบบได้ คุณสมบัติเฉพาะตัวของการพิมพ์แบบดิจิทัล ยังช่วยให้สามารถแยกแยะสินค้าปลอมได้ง่ายขึ้นและทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามสินค้าลอกเลียนแบบทุกชนิดเพื่อขัดขวางเส้นทางการลำเลียงเข้าสู่ตลาด

 

การพิมพ์กันการปลอมแปลงเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง

ตลาดการพิมพ์ด้านความปลอดภัยหรือกันการปลอมแปลงในเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 4.6% CAGR (Compound Annual Growth Rate) ในระยะเวลาตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2570 จากการขยายตัวที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมการพิมพ์ต้องพัฒนาให้มีความหลากหลายเพื่อตอบรับกับความต้องการของแบรนด์ต่างๆ ต่องานพิมพ์ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไปมากยิ่งขึ้น 

หนึ่งในแอปพลิเคชันหลักที่องค์กรต่างๆ เลือกใช้ คือ ระบบการป้องกันขั้นสูง (advanced brand protection) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ด้านการพิมพ์ที่ให้ความปลอดภัยปลอดการปลอมแปลง สามารถตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ เป็นการป้องกันและขจัดสินค้าลอกเลียนมาตรฐานต่ำและเป็นอันตรายให้ออกจากระบบซัพพลายเชน สร้างความปลอดภัยให้ผู้บริโภคควบคู่ไปกับการรักษาธุรกิจและปกป้องชื่อเสียงของแบรนด์สินค้าได้อีกด้วย อีกหนึ่งการป้องกันคือวิธีการพิมพ์กันการปลอมแปลง ที่ภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และสถาบันชั้นนำใช้ในการผลิต สื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์มและเอกสารทางการต่างๆ ที่สามารถตรวจสอบความถูกต้อง ติดตามเส้นทางของการใช้งานได้ ซึ่งเป็นวิธีที่หลายประเทศใช้จัดพิมพ์หนังสือเดินทางที่สามารถตรวจสอบว่าเป็นเอกสารของจริง ทั้งระบุข้อมูลและอัตลักษณ์บุคคลที่ถูกต้องได้อย่างแม่นยำ 

ปัจจุบัน แบรนด์สินค้าต่างๆ หันมาพึ่งพาผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (print service provider: PSP) มากขึ้นเป็นการขับเคลื่อนการเติบโตและขยายตลาดการพิมพ์ความปลอดภัยดิจิทัลให้มีมูลค่าสูง ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ยังสร้างความมั่นใจกับแบรนด์ว่าทุกขั้นตอนของงานพิมพ์ในแต่ละครั้งจะอยู่ภายใต้ ระบบการพิมพ์ที่สร้างความปลอดภัยหลายชั้น โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดันที่สำคัญในอีโคซิสเต็มของงานพิมพ์ อย่างเช่น แพลตฟอร์ม HP Indigo Secure เป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ ด้วยการพิมพ์ความปลอดภัย แบบทั้งที่สามารถมองเห็นและแบบที่มองไม่เห็นด้วยตา ผสานกันของหมึกพิมพ์ที่มองไม่เห็น (invisible inks) หมึกอินฟราเรดที่มีคุณสมบัติพิเศษ

การพิมพ์ข้อมูลสำคัญหลากหลายประเภท รหัสหรือหมายเลขประจำตัวเฉพาะ คิวอาร์โค้ด ไมโครเท็กซ์ การพิมพ์ลายน้ำ (guilloche) การพิมพ์แบบรหัสติดตามเชื่อมต่อกับคลาวด์ เป็นต้น 

 

ความท้าทายที่ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์กำลังเผชิญอยู่

การระบาดใหญ่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่เพียงส่งผลดีต่อผู้ค้าอีคอมเมิร์ซ และผู้บริโภค แต่ยังเปิดโอกาสให้อาชญากรนักปลอมแปลงสร้างหนทางในการลอกเลียนแบบสินค้าได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางการขายที่บรรดานักช็อปนิยมใช้ เช่น อีคอมเมิร์ซและเอ็มคอมเมิร์ซ ปัญหาการปลอมแปลงไม่เพียงสร้างความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้ทางธุรกิจ แต่ยังก่อความเสียหายต่อมูลค่าแบรนด์ที่เกิดจากความไม่ไว้วางใจของลูกค้า ในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้หน่วยงานเภสัชกรรมได้รับผลกระทบสูงสุด จากความต้องการยาและการระบาดของยาปลอมระบาด ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้น การสร้างมาตรการความปลอดภัยหลายชั้นให้กับเอกสาร ฉลาก และบรรจุภัณฑ์ จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างกระบวนการผลิตยาที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น กรณีของบริษัท Nosco Inc. 

ที่ใช้ระบบการพิมพ์บาร์โค้ดล่องหน ลูกค้าสามารถสแกนและติดตามบาร์โค้ดในหลายๆ ประเทศได้เพื่อให้ลูกค้าเชื่อใจว่าจะได้รับยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ภาพรวมการแข่งขันทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้แบรนด์สินค้าที่ไม่สามารถควบคุมการปลอมแปลงสินค้า จะส่งกระทบต่อเป้าหมายทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดใหม่หรือการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ปัจจุบันผู้บริโภคมีความฉลาดซื้อมากขึ้น ให้ความสำคัญกับมูลค่าแบรนด์ในระดับสูง ปัจจัยด้านสินค้าของแท้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม แม้โซลูชันการพิมพ์ด้านความปลอดภัยระบบดิจิทัลจะถูกพิสูจน์ แล้วว่าเป็นกุญแจสำคัญที่เชื่อถือได้และทรงประสิทธิภาพต่อการต่อต้านควบคุมสินค้าลอกเลียนแบบและป้องกันสินค้าปลอม แต่ท้ายที่สุดแล้วอำนาจการตัดสินใจลงทุนกับระบบการพิมพ์ความปลอดภัยดังกล่าวขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กรเองว่าพร้อมจะพิชิตปัญหาการปลอมแปลง หรือเลือกที่จะเพิกเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

 

 

 
back